
30 กันยายน - 2 ตุลาคม 2563 | การประชุมแนวทางการขับเคลื่อนหลักสูตรไฮสโคปตามแนวทางไรซ์ไทยแลนด์ในโรงเรียนเอกชน ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
ไรซ์ไทยแลนด์ขอขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) คณะผู้บริหารโรงเรียนเอกชน คุณครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่มีส่วนให้เกิดงานในครั้งนี้ และจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะนำปัญหา อุปสรรคที่ได้รับการสะท้อนจากทุกๆ ท่านไปแก้ไข เพื่อดำเนินโครงการในระยะต่อไปให้ดียิ่งขึ้น ในอนาคต ไรซ์ไทยแลนด์หวังว่าจะได้เห็นเด็ก ๆ ในสถานศึกษาทุกสังกัด ได้เรียนหลักสูตรไฮสโคปตามแนวทางของไรซ์ไทยแลนด์ ได้เรียนรู้อย่างมีชีวิตชีวา และมีความพร้อมที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป
“ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น ระหว่างคุณครู ที่กระทำต่อเด็ก นักวิชาการด้านการศึกษาปฐมวัย สะท้อนมุมมองการแก้ปัญหา เรื่องนี้ว่าผู้บริหารโรงเรียน ต้องมีเครื่องมือในการตรวจสอบ ประเมินความพร้อมของครูต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับวิสัยทัศน์ของโรงเรียน รวมถึงแนะนำให้ผู้ปกครองพิจารณาโรงเรียนจากพฤติกรรมของครู มากกว่าชื่อเสียงและค่านิยม” – รศ.วีระชาติ กิเลนทอง
ข้อมูลเด็กปฐมวัยแบบตัวอย่างซ้ำไรซ์ไทยแลนด์ (RIECE Panel Data) เป็นข้อมูลเด็กปฐมวัยแบบตัวอย่างซ้ำที่เริ่มสำรวจตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยวางแผนที่จะจัดเก็บข้อมูลทุกปี ปีละรอบ ต่อเนื่องไปทุกปี ข้อมูลชุดนี้ มีความโดดเด่นในแง่ความสมบูรณ์และครอบคลุมทุกมิติของเด็กปฐมวัยรายบุคคล ทั้งที่เกี่ยวข้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน การศึกษาและสุขภาพของเด็กปฐมวัย รูปแบบและพฤติกรรมการเลี้ยงดู และคุณภาพการเรียนการสอนของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
กิจกรรม Reading Group ในสัปดาห์นี้เป็นหัวข้อ “Quantify the Life Cycle Benefit of an Influential” by James J Heckman ซึ่งบรรยายโดยคุณสัจจา ดวงชัยอยู่สุข โดยการศึกษางานวิจัยนี้เป็นการวัด อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (Benefit and Cost Ratio) และ อัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Rate of Return ) ของโครงการพัฒนาเด็กปฐมวัยสองโครงการที่ชื่อว่า
Carolina Abecedarian Project (ABC Project) และ CARE
พูดคุยกับ รศ.ดร. วีระชาติ กิเลนทอง ผอ.สถาบันวิจัยเพื่อการประเมินและออกแบบนโยบาย (RIPED) ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับความพร้อมของเด็กปฐมวัยก่อนเข้าสู่การศึกษาในระดับประถม พบประเด็นน่าสนใจ คือ “ความยากจนมีผลต่อความพร้อม” แต่การพัฒนาการศึกษาโดยเฉพาะศูนย์เด็กเล็กสามารถช่วยเติมเต็มข้อบกพร่องจากความเหลื่อมล้ำจากความยากจนได้
“ผมยังเชื่อไม่ถอยว่าห้องเรียนต้องมีปฏิสัมพันธ์ การย้ายไปเรียนออนไลน์ ผมว่าทุกคนก็รู้และยอมรับว่าประสิทธิภาพมันต่ำมาก และยังห่างไกลกับการที่จะมาทดแทนการเรียนรู้ของคน เรามีงานวิจัยมากมายที่สะท้อนให้เห็นว่าการเรียนออนไลน์มีผลในเด็กโตมากกว่า เด็กเล็กไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะไม่มีงานวิจัยอะไรที่สะท้อนออกมา สำหรับผมถือว่ามันไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับเด็กปฐมวัย”
รศ.ดร.วีระชาติ กิเลนทอง ผอ.สถาบันเพื่อการประเมินและออกแบบนโยบาย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (RIPED) และคณบดีคณะการศึกษาปฐมวัยให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุครอบครัวข่าว ส.ทร.FM106 ในรายการ Thailand Move on ก้าวไปไทยแลนด์ ติดตามสถานการณ์ Covid-19 เกี่ยวกับงานวิจัย “ความยากจนและขัดสน อุปสรรคต่อความพร้อมเด็กปฐมวัย”
ทางสถาบันวิจัยฯ มองเห็นความสำคัญของการพัฒนาทุนมนุษย์ อันเป็นกุญแจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งให้ความสนใจไปที่การพัฒนาเด็กปฐมวัย และเพื่อศึกษาปัจจัยแวดล้อม จึงมีการศึกษาข้อมูลครัวเรือนของเด็กกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,983 ตัวแปร โดยในการเก็บข้อมูลครั้งต่อไปจะขยายไปยัง 3 จังหวัดชายแดนใต้ และอีกจังหวัดภาคเหนือ พร้อมให้เข้าถึงชุดข้อมูล ประกอบด้วย
Data Dictionary / Questionnaire / Codebook / Data
นายทรงเกียรติ ล้านพลแสน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตอกแป้น อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลหนองตอกแป้นฯ ได้นำหลักสูตรการพัฒนาเด็กปฐมวัย ตามโครงการลดความเหลื่อมล้ำด้วยการศึกษาปฐมวัยที่มีคุณภาพ โดย รศ.ดร.วีระชาติ กิเลนทอง มาใช้ ผลปรากฏว่าเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เด็กกล้าคิด กล้าตั้งคำถาม กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ มีภาวะผู้นำ รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี